วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การศึกษานอกห้องเรียน (13th October 2015)



การฝึกทักษะการฟัง3

ในสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันได้ฝึกทักษะการเขียนไปแล้ว โดยดิฉันได้เขียนเรื่องราวต่างๆ ดังนี้ โดยการอ่าน เรื่อง David Copperfield ตอน David Copperfield’s childhood จากเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาวรรณคดีอังกฤษ แล้วจึงเขียนสรุปเรื่องราวที่ได้อ่านนี้ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ โดยการเขียนเรียงความ เรื่อง If I were rich และโดยการเขียนเรียงความ เรื่อง My the most excited event ซึ่งเป็นการเขียนเรียงความแบบ narrative ซึ่งจากการฝึกทักษะด้วยวิธีการต่างๆเหล่านี้ ทำให้ดิฉันสามารถพัฒนาทักษะการเขียนได้ดีขึ้นไปอีกกว่าการฝึกทักษะการเขียนในครั้งที่แล้ว ซึ่งดิฉันได้เน้นการได้รับความรู้จากการเขียนไปในเรื่องของคำศัพท์ การใช้คำ การใช้ภาษาและความถูกต้องของไวยากรณ์ต่างๆ ทุกครั้งเมื่อดิฉันได้ฝึกทักษะไปจนถึงการเขียน ดิฉันจะย้อนกลับไปเริ่มฝึกทักษะการฟังใหม่อีกครั้ง แล้วต่อมาจึงฝึกทักษะการพูด การอ่าน และการเขียนไปตามลำดับ จากที่เคยได้กล่าวไปในบทความก่อนหน้านี้แล้วว่าในการเรียนภาษาอังกฤษ เราจะต้องมีความรู้ทั้งด้านของเนื้อหา และมีความสามารถในการสื่อสารด้วยใช้ทักษะทั้ง 4  ซึ่งการจะฝึกฝนให้เกิดทักษะที่ดีนั้น เราจำเป็นต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาทักษะให้ดียิ่งขึ้นไป ในสัปดาห์นี้ ดิฉันจึงได้ฝึกทักษะการฟังตั้งแต่วันที่ 13-19 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ดังนี้

ในวันที่ 13-14 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้เริ่มฝึกทักษะการฟังจากการฟังเพลงภาษาอังกฤษที่มีชื่อว่า   What Makes You Beautiful ของศิลปินชื่อว่า One Direction จากhttps://www.youtube.com/watch?v=QJO3ROT-A4E เหตุผลที่ดิฉันเลือกใช้เพลงนี้เป็นเพลงสำหรับฝึกทักษะ เพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่ค่อนข้างเร็ว แต่ก็ยังฟังง่าย เพราะคำศัพท์ที่ปรากฏในเพลงนั้นเป็นคำศัพท์ที่ไม่ยาก ทั้งยังเป็นเพลงที่มีความไพเราะ ทำนองของเพลงก็สนุกสนานทำให้มีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟัง ซึ่งสำหรับการฝึกทักษะการฟังของดิฉันนี้ ในวันที่ 13 ดิฉันเริ่มจากการเปิดเพลงฟังโดยไม่ดูเนื้อร้อง แล้วลองฟังดูว่าในเพลงนั้นเขาร้องว่าอย่างไร โดยฉันจะเปิดอยู่อย่างนั้น 10 รอบ และจากนั้นดิฉันลองร้องตามเพลงนั้นจากการฟังเพียงอย่างเดียวแบบที่ยังไม่ได้ดูเนื้อร้อง แล้วหลังจากนั้นดิฉันจึงมาเปิดดูเนื้อเพลง โดยเปิดเพลงแบบที่มี lyrics แล้วดูว่าคำร้องของเพลงนี้ตรงกับคำที่ดิฉันคิดไว้หรือเปล่า ซึ่งส่วนใหญ่ก็ตรง มีเพียงบางคำเท่านั้นที่ดิฉันฟังไม่ชัด และยังมีคำศัพท์ยากๆบางคำที่ดิฉันต้องแปลความหมาย ส่วนในวันที่ 14 ดิฉันได้เปิดเพลงนี้อีกครั้งและฟังแล้วหัดร้องโดยการอ่านตามเนื้อเพลงทีละวรรค ดิฉันร้องตามโดยมี lyrics ที่ยังมีเสียงนักร้องอยู่ 5 รอบ และฝึกร้องแบบ Karaoke อีก 5 รอบ และฝึกร้องโดยไม่ดู lyrics และ Karaoke ใดๆอีก 5 รอบ สำหรับเนื้อหาในเพลงนี้เกี่ยวกับผู้ชายเขาชมผู้หญิงว่ามีความสวยอยู่ในตัวเอง ทุกคนสามารถมองเห็นความสวยในตัวเธอ มีเพียงแต่ผู้หญิงนั้นมองไม่เห็น
ในวันที่ 15-16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังโดยการดูหนังเรื่อง before sunrise จากhttp://www.dailymotion.com/video/x1m79y4_before-sunrise-1995-1-2_shortfilms เหตุผลที่เลือกดูหนังเรื่องนี้เพราะดิฉันเป็นคนที่ชอบหนังแนวรักแบบโรแมนติก แล้วเรื่องนี้เนื้อหาส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับความรักของหนุ่มสาวที่ได้พบเจอกันเพียงชั่วข้ามคืน ซึ่งดิฉันเริ่มฝึกทักษะการฟัง โดยเริ่มจากในวันที่ 15 ดิฉันดูหนังโดยการฟังเสียงเป็นภาษาอังกฤษและไม่เปิด subtitle ใดๆ 1 รอบ โดยดิฉันได้ตั้งใจฟังและดูเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่ได้ดูในรอบแรกแล้วพบว่า ดิฉันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดเลย ยังไม่เข้าใจความเป็นมา ยังตอบคำถามที่ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไรได้ไม่หมดทุกคำถาม ดังนั้นดิฉันจึงคิดว่าจะต้องดูอีกรอบหนึ่ง ส่วนในวันที่ 16 ดิฉันได้ดูหนังโดยการฟังเสียงเป็นภาษาอังกฤษและอ่าน subtitle ที่เป็นภาษาอังกฤษไปด้วย 1 รอบ ซึ่งทำให้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด และสรุปได้ว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับหนุ่มสาวที่ได้เจอกันบนรถไฟที่กำลังมุ่งหน้าไปกรุงเวียนนา ทั้งสองพูดคุยกันถูกคอในขณะที่อยู่บนรถไฟ ทั้งสองจึงตัดสินใจว่าจะลองแวะเที่ยวที่เวียนนากันด้วยกันก่อนซักวันหนึ่ง ก่อนที่รุ่งเช้าทั้งเขาและเธอจะต้องจากกันไปตามทางของตัวเอง ในวันนั้นพวกเขาได้เที่ยวชมกรุงเวียนนา และในคืนนั้นพวกเขาก็ได้นั่งคุยกันทั้งคืน เขาคุยกันทุกเรื่องที่สามารถคุยได้ และก่อนจากกันพวกเขาสัญญาว่า อีก 6 เดือนเขาจะมาเจอกันอีกครั้งที่เดิม
ในวันที่ 17-18 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังโดยการดูหนังเรื่อง Once ซึ่งได้ยืมมาจากห้อง American Corner เหตุผลที่เลือกดูหนังเรื่องนี้เพราะดิฉันเป็นคนที่ชอบฟังเพลง แล้วเรื่องนี้เนื้อหาส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับเพลง เรื่องราวส่วนใหญ่ในเรื่องถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของเพลง มีเพลงให้ฟังจนเกือบทั้งเรื่อง ซึ่งดิฉันเริ่มฝึกทักษะการฟัง โดยเริ่มจากในวันที่ 17 ดิฉันดูหนังโดยการฟังเสียงเป็นภาษาอังกฤษและไม่เปิด subtitle ใดๆ 1 รอบ โดยดิฉันได้ตั้งใจฟังและดูเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่ได้ดูในรอบแรกแล้วพบว่า ดิฉันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดเลย เพราะส่วนใหญ่ดิฉันจะฟังเพลงเสียมากกว่า ดังนั้นดิฉันจึงคิดว่าจะต้องดูอีกรอบหนึ่ง ส่วนในวันที่ 18 ดิฉันได้ดูหนังโดยการฟังเสียงเป็นภาษาอังกฤษและอ่าน subtitle ที่เป็นภาษาอังกฤษไปด้วย 1 รอบ ซึ่งทำให้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด และสรุปได้ว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับการร้องเพลง ซึ่งเป็นความฝันของหนุ่มสาว 2 คน ที่โคจรมาพบกันและได้ทำความรู้จักกัน ทั้งสองคนชื่นชอบการร้องเพลงและการเล่นดนตรี และมีพรสวรรค์ในด้านนี้ทั้งคู่ ผู้ชายเป็นนักดนตรีเปิดหมวกข้างถนน แล้ววันหนึ่งผู้หญิงก็มาเจอเขาและได้ทำความรู้จักกัน ทำให้ผู้ชายได้รู้ว่าเธอมีลูกคนหนึ่ง พวกเขาได้พบเจอและได้รู้จักกันในเวลาสั้นๆ แต่นั่นก็ทำให้ทั้งคู่ได้ค้นพบตัวเองมากยิ่งขึ้น และต่างแยกย้ายกันเดินไปตามความฝันของตน
ในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้เริ่มฝึกทักษะการฟังจากการฟังเพลงภาษาอังกฤษที่มีชื่อว่า   The Lazy Song ของศิลปินชื่อว่า Bruno Mars จาก https://www.youtube.com/watch?v=fLexgOxsZu0 เหตุผลที่ดิฉันเลือกใช้เพลงนี้เป็นเพลงสำหรับฝึกทักษะ เพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่ไม่ช้ามากไป และไม่เร็วมากไปและยังฟังง่าย เพราะคำศัพท์ที่ปรากฏในเพลงนั้นเป็นคำศัพท์ที่ไม่ยาก ทั้งยังเป็นเพลงที่มีความไพเราะ ทำนองของเพลงเพลงก็สนุกสนานทำให้มีความรู้สึกสบายใจ อีกทั้งเพลงนี้ยังตรงกับความรู้สึกของดิฉันในตอนนั้นด้วย เพราะในวันนี้ดิฉันรู้สึกขี้เกียจมากๆกับการเริ่มอาทิตย์ใหม่ ซึ่งสำหรับการฝึกทักษะการฟังของดิฉันนี้ ดิฉันเริ่มจากการเปิดเพลงฟังโดยไม่ดูเนื้อร้อง แล้วลองฟังดูว่าในเพลงนั้นเขาร้องว่าอย่างไร โดยฉันจะเปิดอยู่อย่างนั้น 5 รอบ และจากนั้นดิฉันลองร้องตามเพลงนั้นจากการฟังเพียงอย่างเดียวแบบที่ยังไม่ได้ดูเนื้อร้อง แล้วหลังจากนั้นดิฉันจึงมาเปิดดูเนื้อเพลง โดยเปิดเพลงแบบที่มี lyrics  และฟังแล้วหัดร้องโดยการอ่านตามเนื้อเพลงทีละวรรค มีคำศัพท์ยากๆบางคำที่ดิฉันต้องแปลความหมาย ดิฉันก็ได้แปลไปพร้อมกับในขณะที่ดิฉันฟังเพลง จากนั้นดิฉันร้องตามโดยมี lyrics ที่ยังมีเสียงนักร้องอยู่ 5 รอบ และฝึกร้องแบบ Karaoke อีก 5 รอบ และฝึกร้องโดยไม่ดู lyrics และ Karaoke ใดๆอีก 5 รอบ สำหรับเนื้อหาในเพลงนี้เกี่ยวกับว่านักร้องมีความรู้สึกขี้เกียจ เขาไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น อยากนอนขลุกอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆแบบนั้นไปทั้งวัน
จากการฝึกทักษะการฟังตั้งแต่วันที่ 13-19 ตุลาคม พ.ศ. 2558 โดยดิฉันได้ฝึกโดยการฟังเพลงที่มีชื่อว่า What Makes You Beautiful ของ One Direction 1 เพลง และเพลง The Lazy Song ของ Bruno Mars 1 เพลง ดูหนังเรื่อง before sunrise จากในเว็บไซต์ 1 เรื่อง และดูหนังเรื่อง Once ที่ยืมมาจาก American Corner 1 เรื่อง พบว่าดิฉันสามารถพัฒนาตนเองได้ดีขึ้นกว่าการฝึกทักษะการฟังในสองรอบแรก สามารถฟังสิ่งต่างๆทั้งเพลง และดูหนังได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น และสนุกมากขึ้น ทำให้เพลิดเพลินกับการดูหนังและฟังเพลง ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายแม้หนังที่ดูจะมีความยาวมากแค่ไหนก็ตาม เพราะเมื่อเรารู้สึกว่าเราเข้าใจก็จะทำให้เรามีความสุขและรู้สึกภาคภูมิใจถึงความพยายามของตนเอง และยังมีความสุขในการพัฒนาทักษะของตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานในการทำความเข้าใจเหมือนแต่ก่อน ทั้งนี้ การฝึกทักษะในครั้งนี้ยังทำให้ดิฉันได้รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปกับการทำในสิ่งที่ไร้สาระ และได้เปลี่ยนทัศนคติของดิฉันที่มีต่อหนังต่างชาติได้ดีขึ้น จากที่เมื่อก่อนดิฉันคิดว่าการดูหนังภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่ยากแก่การเข้าใจและเข้าถึง แต่ตอนนี้กลับทำให้ดิฉันชอบหนังต่างชาติมากกว่าหนังไทยเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นดิฉันยังได้ฝึกทักษะการอ่าน การแปลและการตีความหมายจากการอ่าน Subtitle ทั้งในเพลง และหนังอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นดิฉันยังรู้จักคำศัพท์เพิ่มขึ้น และรู้จักสำนวนหรือคำที่ใช้ในภาษาพูดมากขึ้นเช่นกัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น