การฝึกทักษะการอ่าน2
ในสัปดาห์ที่แล้ว
ดิฉันได้ฝึกทักษะการพูด โดยเริ่มจากการฝึกโดยการฟังและพูดตามบทสนทนาต่างๆ ผ่าน Youtube
ทั้ง 3 วิดีโอ
ดังนี้ คือ ในวันที่ 22-23 ได้ฝึกด้วยวิดีโอ Spoken English Leaning Video Spoken
English Tutorial English Conversation ในวันที่ 24-25 ได้ฝึกด้วยวิดีโอ Listening
English Conversation With Subtitle - Learn English Listening และในวันที่ 26-27 ได้ฝึกด้วยวิดีโอ English
Conversation Learn English Speaking English Subtitles Lesson 03 ส่วนในวันที่ 28
ได้ฝึกพูดกับเพื่อนและพูดกับตัวเอง พบว่าดิฉันสามารถพัฒนาตนเองได้ดีขึ้น
มีความมั่นใจในการพูดมากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ซึ่งดีกว่าการฝึกพูดในรอบที่แล้ว และไม่เขินอายอีกต่อไป
ถึงแม้ว่าจะไม่คล่องแคล่วและชำนาญเหมือนเจ้าของภาษาแต่ก็มีการพัฒนาที่ดีขึ้น
ไม่เพียงแต่ทักษะการพูดเท่านั้นที่ดิฉันยังมีปัญหาอยู่
เพราะดิฉันคิดว่าทักษะการอ่านของดิฉันยังต้องได้รับการปรับปรุงเช่นกัน
เพราะดิฉันได้สังเกตจากเพื่อนๆ
ในตอนที่อาจารย์ในรายวิชาวรรณคดีภาษอังกฤษได้ให้เพื่อนไปนำเสนอบทเรียนโดยการแปลบทเรียนจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทยนั้น
เพื่อนๆสามารถแปลได้ถูกต้องเกือบสมบูรณ์ นั่นแสดงว่า เพื่อนๆมีทักษะการอ่านที่ดี
แปลความหมายได้เข้าใจลึกซึ้ง และยังสามารถถ่ายทอดออกมาให้คนอื่นเข้าใจได้
แต่ดิฉันกลับยังแปลความหมายเหล่านั้นไม่แตก ยังแปลไปผิดทาง นั่นหมายถึงว่า
ดิฉันยังอ่านไม่ค่อยเข้าใจ และถ่ายทอดสิ่งที่อ่านออกมาได้ไม่ดีนัก จากปัญหาข้างต้นนั้นทำให้ดิฉันจึงต้องการพัฒนาและฝึกทักษะการอ่านของดิฉันให้ดีขึ้น
ซึ่งดิฉันได้เริ่มฝึกทักษะการอ่านตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน – 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ดังนี้
ในวันที่ 29-30 กันยายน พ.ศ.
2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่าน โดยการอ่านบทความเรื่อง
Chocolate for Health and Beauty จากบทความที่เพื่อนๆได้ใช้ประกอบการสอบสอนในรายวิชาภาษาศาสตร์สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษ
ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับประโยชน์ของการรับประทานช็อคโกแลตซึ่งเป็นของหวานที่เป็นที่นิยมกันทั่วโลก
ซึ่งช็อคโกแลตนี้มีประโยชน์ทั้งในด้านของสุขภาพ คือช่วยลดความเครียด
ช่วยลดความดันโลหิตสูง และช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิดอีกด้วย
ส่วนในด้านของความสวยความงาน คือ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้น และยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้ออีกด้วย
แต่ถึงอย่างไรก็ถาม การรับประทานช็อคโกแลตก็อยากส่งให้เกิดผลเสียได้เช่นกัน
หากทานในปริมาณที่มากจนเกินไป ซึ่งดิฉันได้เลือกอ่านบทความเรื่องนี้ เพราะมีคำศัพท์ที่ไม่ค่อยยาก แต่ก็มีคำศัพท์เฉพาะของทางวิทยาศาสตร์มากอยู่เช่นกัน
แต่รูปประโยคก็ไม่ค่อยมีความซับซ้อนมากเท่าไหร่
อาจจะมีอยู่บ้างแต่ก็ยังสามารถทำความเข้าใจได้ ดิฉันจึงสามารถอ่านเรื่องได้อย่างเข้าใจง่าย
ทั้งยังเป็นบทความที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม
ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวของเราที่เราควรรู้
ทั้งยังเป็นความชอบส่วนตัวของดิฉันด้วยในเรื่องของการทานช็อคโกแลตและเรื่องของสุขภาพความงาม
ซึ่งดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านของดิฉัน ดังนี้ คือ ในวันที่ 29
ดิฉันได้ฝึกอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมด 3 รอบ ดังนี้ ในรอบแรกใช้วิธีการอ่านโดยการ Skimming
ในรอบที่ 2
ดิฉันใช้กลวิธีการอ่านโดยการ Scanning ส่วนในรอบที่ 3
ดิฉันได้อ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียดพร้อมทั้งแปลคำศัพท์ยากๆ
เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาโดยรวมทั้งหมด ส่วนในวันที่ 30 ดิฉันได้แปลบทความจากคำศัพท์ที่ได้หาไว้เมื่อวันที่
29
ในวันที่ 1-2 ตุลาคม พ.ศ. 2558
ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่าน
โดยการอ่านวรรณกรรมเรื่อง The Canterbury Tales ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดย
Geoffrey Chaucer ในชื่อตอน The Prologue At the
Tabard Inn ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ นักแสวงบุญกว่า 20 คน ได้ออกเดินทางจาก London ไปยัง Canterbury
ที่ซึ่งมีนักบุญผู้เป็นคนรับใช้ของพระเจ้าชื่อ Thomas ถูกฆ่าตายที่นั่น พวกเขาได้ออกเดินทางเพื่อไปขอร้องพระเจ้าและไปเยี่ยมพระวิหารแห่งนั้น
ซึ่งเป็นการเดินทางที่มีระยะทางไกลมาก
โดยในเหล่านั้นแสวงบุญนั้นประกอบไปด้วยผู้คนที่มีอาชีพแตกต่างกันออกไป
ซึ่งก่อนออกเดินทางพวกเขาได้มารวมตัวกันที่ Tabard Inn
เพื่อพักผ่อน ซึ่งในคืนนั้น พวกเขาได้ตกลงกันว่าในระหว่างการเดินทาง
พวกเราจะผลัดกันเล่าเรื่องราวของตนให้แก่คนอื่นๆได้ฟัง
เพื่อสร้างความสนุกสนานในการเดินทาง ซึ่งเรื่องเล่าของแต่ละคนนั้นก็มีมากมาย
แตกต่างกันออกไป ซึ่งดิฉันได้เลือกอ่านวรรณกรรมเรื่องนี้ เพราะมีคำศัพท์ที่ไม่ค่อยยาก
รูปประโยคก็ไม่ค่อยมีความซับซ้อน จึงสามารถอ่านเรื่องได้อย่างเข้าใจ
ทั้งยังเป็นวรรณกรรมซึ่งเมื่ออ่านแล้ว มีความสนุก เพลิดเพลิน ช่วยผ่อนคลายได้ดี ยิ่งไปกว่านั้น
ยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเรียนในรายวิชาวรรณคดีภาษาอังกฤษอีกด้วย ซึ่งดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านของดิฉัน ดังนี้ คือ
ในวันที่ 1 ดิฉันได้ฝึกอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมด 3 รอบเช่นเดิม
ดังนี้ในรอบแรกใช้วิธีการอ่านโดยการ Skimming ในรอบที่ 2
ดิฉันใช้กลวิธีการอ่านโดยการ Scanning ส่วนในรอบที่ 3
ดิฉันได้อ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียดพร้อมทั้งแปลคำศัพท์ยากๆ เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาโดยรวมทั้งหมด
ส่วนในวันที่ 2 ดิฉันได้แปลนิทานจากคำศัพท์ที่ได้หาไว้เมื่อวันที่ 1
ในวันที่ 3-5 ตุลาคม พ.ศ. 2558
ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่าน
โดยการอ่านวรรณกรรมเรื่อง The Canterbury Tales ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดย
Geoffrey Chaucer ในชื่อตอน The Nun’s Priest’s Tale
Chaunticleer and the Fox ซึ่งเป็นเรื่องเล่าของมาดาม Eglantine
เรื่องมีอยู่ว่า มีหญิงชราคนหนึ่ง เธอเป็นคนจน
เธอได้เลี้ยงปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ไว้กินเอง เธอมีไก่ ชื่อ Chaunticleer ซึ่งมีเสียงขันที่ไพเราะ และมีภรรยาทั้งหมด 7 ตัว
แต่ Pertelote เป็นภรรยาที่รู้จักเขา และเขารักมากที่สุด
ในเช้าวันหนึ่ง เขาขันด้วยเสียงที่ประหลาดไป Pertelote
จึงถามเขาด้วยความห่วงใย เขาจึงเล่าว่าเขาฝันร้าย ว่ามีหมาป่าจะมาฆ่าเขา และเขาเชื่อว่าความฝันนั้นจะกลายเป็นจริง
แต่ Pertelote ไม่เชื่อ เขาจึงได้เล่าความฝัน 3 ความฝันที่เกิดขึ้นจริง หลังจากที่ได้ฝันเรื่องเหล่านั้น
แล้วหลังจากที่เขาเล่าจบ เขารู้สึกสบายใจขึ้น ทำให้เช้าวันถัดมา
เขาขันด้วยเสียงที่ไพเราะดังเดิม แต่ก็มีหมาป่าโผล่ออกมา
มันบอกว่ามันชอบเสียงขันของเขา มันอยากฟังไม่ได้หวังจะมาทำร้าย เขาหลงเชื่อมัน
เขาจึงขันให้มันฟัง หมาป่าจึงจะทำร้ายเขา
แต่ภรรยาเขาได้เรียกให้สัตว์อื่นมาช่วยไว้ทัน ทำให้เขาปลอดภัยในที่สุด ซึ่งดิฉันได้เลือกอ่านวรรณกรรมเรื่องนี้
เพราะมีคำศัพท์ที่ไม่ค่อยยาก รูปประโยคก็ไม่ค่อยมีความซับซ้อน แต่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาว
ทำให้ดิฉันต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ซึ่งดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านของดิฉัน ดังนี้ คือ
ในวันที่ 3 ดิฉันได้ฝึกอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมด 2 รอบ
ดังนี้ในรอบแรกใช้วิธีการอ่านโดยการ Skimming ในรอบที่ 2
ดิฉันใช้กลวิธีการอ่านโดยการ Scanning ส่วนในวันที่ 4 ดิฉันได้อ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียดพร้อมทั้งแปลคำศัพท์ยากๆ
เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาโดยรวมทั้งหมด ส่วนในวันที่ 5ดิฉันได้แปลนิทานจากคำศัพท์ที่ได้หาไว้เมื่อวันที่
4
จากการฝึกทักษะการอ่านตั้งแต่วันที่
29 กันยายน – 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกโดยการอ่านเรื่องต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
3 เรื่อง ดังนี้ เรื่อง Chocolate
for Health and Beauty วรรณกรรมเรื่อง The
Canterbury Tales ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดย
Geoffrey Chaucer ในชื่อตอน The Prologue At the Tabard Inn และตอน The
Nun’s Priest’s Tale Chaunticleer and the Fox พบว่าดิฉันสามารถพัฒนาตนเองได้ดีขึ้น
อ่านเรื่องต่างๆได้เข้าใจมากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
และเข้าใจบทอ่านได้เร็วกว่าการฝึกทักษะการอ่านในครั้งที่แล้ว
เพราะจากการอ่านครั้งที่แล้วทำให้ดิฉันได้รู้คำศัพท์มากขึ้น และในสัปดาห์นี้ดิฉันก็ได้รู้จักคำศัพท์มากขึ้นไปอีกเช่นกัน
และยังเข้าใจรูปประโยคในแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น
สามารถหาประธานและกริยาในประโยคยาวๆได้เร็วขึ้น และมีกลวิธีในการอ่านที่ดีขึ้น
และแปลความหมายของบทอ่านได้เข้าใจมากขึ้น สามารถถ่ายทอดสิ่งที่ได้จากการอ่าน
โดยการเล่าให้เพื่อนฟังได้ และเพื่อนมีความเข้าใจมากขึ้น ทำให้มีความสนุกกับการอ่านเรื่องต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้นและการได้เล่าเรื่องที่อ่านให้คนอื่นฟัง
ซึ่งในสัปดาห์นี้ดิฉันไม่ได้เพียงฝึกทักษะการอ่านเพื่อทำความเข้าใจเนื้อเรื่องเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการพัฒนาทักษะการแปลควบคู่ไปด้วยเช่นกัน เพราะการที่เราอ่านเนื้อเรื่องภาษาอังกฤษได้เข้าใจ
เราจำเป็นต้องแปลเนื้อเรื่องนั้นมาเป็นภาษาแม่ก่อน แล้วจากนั้นจึงทำความเข้าใจเนื้อหาของสิ่งที่เราอ่านจากภาษาแม่ที่เราได้แปลไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น